ปางรัษฎา
การประกาศยกเลิกสัมปทานป่าไม้ทั่วประเทศ ในวันที่ 14 มกราคม 2532 นั้นสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับหลายชีวิตในวงการทำไม้ เช่นเดียวกับครั้งที่เจ้าของสิทธิ์ได้รับมันมา แต่เป็นในทางตรงกันข้าม
ผู้เข้าชมรวม
176
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ปางรัษฎา บทนำ
การประกาศยกเลิกสัมปทานป่าไม้ทั่วประเทศ ในวันที่ 14 มกราคม 2532 นั้นสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับหลายชีวิตในวงการทำไม้ เช่นเดียวกับครั้งที่เจ้าของสิทธิ์ได้รับมันมา แต่เป็นในทางตรงกันข้าม
ย้อนไปราวปี 2426 รัฐบาลไทยได้เริ่มเปิดสัมปทานไม้สักแก่ชาวยุโรป ไม้สักนี้ชาวบ้านถือว่าเป็นไม้เจ้า เพราะมีแต่เจ้าที่มีศักดินาในแคว้นของตน แม้ในระยะแรกจะต่อต้าน แต่เมื่อเห็นว่าพื้นที่รกชัฏเหล่านี้เป็นแหล่งรายได้อันงามราวกับได้เปล่า บรรดาเจ้าก็เริ่มเห็นดีในการค้าไม้กับฝรั่งมากขึ้นทุกที ความนิยมทำไม้นี้ลามไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน รัฐมีรายได้จากค่าสัมปทานไม่น้อย แต่ผู้ที่ร่ำรวยที่สุดเห็นจะเป็นฝรั่งผู้ได้สิทธิ์นั้นแหละ
บริษัททำไม้เริ่มขยายตัวใหญ่โตขึ้นทุกวัน ชาวบ้านจำนวนมากสมัครเป็นคนงาน ทั้งแผนกเลื่อยไม้ เสมียน ไปจนถึงคนครัว นอกจากคนแล้ว ลูกจ้างของปางไม้ยังมีสัตว์ อาทิ ช้าง ม้า ค่าจ้างที่มันได้รับไม่ใช่เงินแต่เป็นอาหาร
เหมือนจะเป็นสิ่งที่สมประโยชน์กันทุกฝ่าย แต่ผู้ที่มาเยือนเพื่อตักตวงผลประโยชน์นั้นหรือจะคำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดตามมาภายหลัง เมื่อไม้งามๆจำนวนมากถูกตัดจนเหี้ยน ส่วนไม้เล็กที่เกะกะกีดขวางนั้นก็ถูกกำจัด ป่าอันอุดมก็สูญหายไปอย่างรวดเร็ว เร็วเกินกว่าจะพ้นจากช่วงชีวิตของคนๆ หนึ่งด้วยซ้ำ เปรียบได้กับต้นไม้ที่ถูกปลวกกัดแทะจนกลวง รอเพียงวันที่จะถล่มลงมาเท่านั้น
อย่างเช่นที่ปางรัษฎา ความรุ่งเรืองและความเสื่อมถอยของสถานที่แห่งนี้เป็นเรื่องเล่าขานของคนชราในหมู่บ้านที่ได้พบเห็นเรื่องเหล่านี้มากับตา
อาจถือว่าเจ้าพิพิธรัษฎากรนั้นมีหัวการค้ามากกว่าเจ้าองค์อื่นๆ ที่ไม่ได้ยอมตนเป็นเพียงลูกจ้างบริษัททำไม้ของฝรั่ง แต่ตั้งตนเป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งของบริษัทนั้นทีเดียว นั่นก็เพราะท่านนั้นแหละที่ชักชวนมิสเตอร์จาคอบผู้นี้มาสู่แคว้น และร่วมทุนเปิดบริษัทจาคอบ แอนด์ เฟรนด์ ทำไม้โดยเปิดปางชื่อปางรัษฎา ทำการสัมปทานในส่วนของพระญาติเกือบทั้งหมด กินพื้นที่ถึงสามจังหวัด ทั้งลำปาง แพร่ และน่าน
ในช่วงขาขึ้นของบริษัทจาคอบ แอนด์ เฟรนด์ นั้น เรียกว่าอู้ฟู่ยังน้อยเกินไป คนงานในปางนั้นเกือบหนึ่งพันคน กว่าเสมียนจะขี่ม้าตระเวนไปจ่ายเงินได้ครบก็กินเวลาเกือบสองสัปดาห์ ความร่ำรวยที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ทำให้จาคอบอดีตกะลาสีเรือตั้งรับไม่ทัน ทั้งที่ผู้ที่เป็นเพื่อนและอดีตเจ้านายของเขาได้เอ่ยปากเตือนหลายครั้ง แต่ความหอมหวานของอำนาจและเงินตราก็ทำให้หลงระเริงไปได้ง่าย
มิสเตอร์จาคอบเริ่มติดสุรานารีอย่างหนัก และแน่นอนว่าในที่สุดก็หลงพัวพันกับการพนัน แต่จุดสิ้นสุดของบริษัทจาคอบ แอนด์ เฟรนด์ นั้นคือ การที่ชายฝรั่งนี้หลงในอำนาจตนจนใช้กำลังฉุดคร่านางตีริ ภรรยาน้อยคนโปรดของเจ้าพิพิธรัษฎากรมาบำเรอกาม หญิงสาวนั้นอัปยศเกินกว่าจะมีชีวิตอยู่จึงผูกคอตายในคืนนั้นเอง แต่ชายฝรั่งก็ไม่เคยสร่างเมาจนมีสติพอจะรับรู้เรื่องราวใดๆ กระทั่งผู้เป็นเพื่อนกลับมาถึงในสามวันต่อมา
เจ้ารัษฎาสั่งให้จัดการศพนางตีริที่เน่าเปื่อยเป็นที่น่าสังเวชแก่ผู้พบเห็นอย่างเงียบๆ และเริ่มแผนการอันนำไปสู่จุดจบของชายฝรั่งอย่างแยบยล ผู้ที่หลงมัวเมาในอบายมุขนั้น ไม่ยากเลยที่จะชักนำไปสู่ทางเสื่อมยิ่งขึ้น
ในเวลาไม่นาน บริษัทจาคอบ แอนด์ เฟรนด์ ก็ต้องปิดตัวลงโดยที่มิสเตอร์จาคอบนั้นแทบสิ้นเนื้อประดาตัว สัมปทานก็สิ้นสุดแล้ว ทรัพย์สินเงินเงินทองอันตรทานไปในอากาศราวกับไอน้ำยามต้องแสงอาทิตย์ มิตรที่เคยมีก็แปรเปลี่ยนไปจากยามร่ำรวย นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ดึงมิสเตอร์จาคอบให้กลับมามีสติอีกหน และตระหนักว่าสถานที่แห่งนี้ไม่อาจเป็นขุมทรัพย์ให้เขาได้อีกต่อไป บรรดาเจ้าหนี้มายึดทรัพย์สินที่พอขายได้ไปเกือบหมด ส่วนที่เหลือก็ถูกขายทอดคตลาดในราคาถูก เพราะมันถูกใช้มาหลายปีดีดักจนทรุดโทรม รวมทั้งไม่มีใครทำไม้อีกต่อไปแล้ว ช้างที่เคยถูกใช้งานอย่างหนักในการลากซุง ถูกบริจาคให้บ้านปางหละเพื่อไม่ให้เป็นภาระเลี้ยงดูอีกต่อไป
หลังการจากไปอย่างแทบสิ้นเนื้อประดาตัวของหุ้นส่วนไม่นาน เจ้าพิพิธรัษฎากรก็สิ้นลม ทายาทของเจ้าจึงประกาศขายปาง คือพื้นที่ที่เป็นสิทธิ์ของเจ้าพ่อแต่ดั้งเดิมเช่นกัน ด้วยตัดสินใจย้ายไปตั้งรกรากยังประเทศที่ห่างไกลจากความทรงจำอันน่าอดสูที่ฝังลึกในใจจนไม่อาจทนอาศัยที่นี่ต่อไปได้อีก
แต่ด้วยพื้นที่อันทรุดโทรมและไม่อาจก่อประโยชน์ใดๆ ได้อีก รวมทั้งมีปางไม้มากมายที่ประกาศขายในทำนองเดียวกันนี้ ทำให้ปางรัษฎาขายยากเหลือเกิน เจ้าชัยวัฒนาผู้เป็นพระญาติจึงช่วยออกหน้าติดต่อเจ้านายทางบางกอกที่มีกำลังทรัพย์พอที่จะเอื้อเฟื้อได้ หลังจากข่าวผ่านมาหลายทอด พระพรหมก็ได้นำพาผู้ที่มีชะตาต่อกันมาเป็นเจ้าของใหม่ของปางรัษฎา และท่านได้บุตรชายโทนหนุ่มใหญ่มาจัดการความเรียบร้อยของปางในอีกสองปีถัดมา อันเป็นจุดเริ่มต้นของชะตากรรมของหลายชีวิตที่จะเกิดขึ้นอีกหลายปีต่อจากนี้
หวัดดีจ้า
ก่อนอื่นต้องขอโทษที่หายไปนาน และยังเขียนเรื่องโกกิลา การเวก ไม่จบอย่างที่สัญญาไว้ ก็มาเปิดเรื่องใหม่ซะแล้ว
คือช่วงที่หายไป ไรท์งานยุ่งมาก เครียดมาก เครียดจนอาเจียนทุกเช้า
สิ่งที่ช่วยเยียวยาไรท์ก็คือคลิปน้องช้าง ก็เลยอินเรื่องช้างมาก จนไม่มีไอเดียเรื่องอื่นเลย
ก็เลยจำเป็นต้องเขียนปางรัษฎาก่อน และตั้งใจไว้ว่าจะเขียนให้จบ (อีกละ) จริงๆจ้า
รักนะ
ไรท์เอง
ผลงานอื่นๆ ของ วิเซียร่า / แก้วโมรา / นันทรูป ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ วิเซียร่า / แก้วโมรา / นันทรูป
ความคิดเห็น